กว่าจะได้ไปญี่ปุ่น ก่อนไปญี่ปุ่นต้องเตรียมตัวเรื่องขอวีซ่าถ้าเป็นวีซ่าเดี่ยวจะใช้เวลารอประมาณ 2 วัน ถ้าเป็นวีซ่ากรุ๊ปก็ใช้เวลารอประมาณหนึ่งสัปดาห์ หลักฐานการขอวีซ่าญี่ปุ่นไม่มีอะไรมากคะ ตามอ่านกันได้ที่นี่คะ พอวีซ่าผ่านก็สามารถไปญี่ปุ่นตามระยะเวลาที่ขอไว้ วันเดินทางเครื่องออกจากสนามบินสุวรรณภูมิราว ๆ ตี 1 ของวันที่ 19 ต.ค. ที่ทรมานก็ตอนนั่งเครื่องบินนี่แหละ เพราะใช้เวลาถึง 6 ชม. ที่นั่งก็แสนจะแคบ เวลาหลังก็แทบจะนั่งหลับ ทรมานจริง ๆ คะ ก็คนมันไม่มีตังค์จะนั่งชั้น Business นี่นา... ถึงสนามบินนาริตะในตอนเช้าประมาณตี 5.30 น. เวลาในญี่ปุ่น อ๋อ..สนามบินนาริตะไม่ใช่อยู่ที่โตเกียวนะจ้ะ .. แต่ตั้งอยู่ที่เมืองที่ชื่อว่า Narita ค่ะ |
เอกสารที่ต้องกรอกก่อนเข้าญี่ปุ่น
|
หน้าตาของวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น
|

อาหารบนเครื่องของการบินไทย |

ถึงสนามบินนาริตะแล้วจ้า |

สัญญาลักษณ์รอยเท้าสีเขียวสำหรับคน
ยืนทางด้านซ้าย ด้านขวาเว้นให้คนเดิน |

เค้าเตอร์รถสายต่าง ๆ เพื่อเข้าเมือง |

ป้ายบอกทางกำลังจะผ่านสนามบิน Haneda |

ตึกบริษัทน้ำมันเชลล์ญี่ปุ่น |

ที่ทำการ สถานีโทรทัศน์ Fuji Television
ที่อัดรายการ SMAP X SMAP
|

รถมุ่งหน้าไป Shinjuku |

ป้ายบอกเส้นทางบนทางด่วน |

คำเตือนตัวใหญ่บนถนนเห็นชัดแจ๋ว |
ถนนในญี่ปุ่น - ทันทีที่รถแล่นอยู่บนถนนในญี่ปุ่นรู้สึกแตกต่างจากถนนเมืองไทยอย่างเห็นได้ชัด ก็ถนนที่นี่เรียบมากทำให้รถไม่กระเด้งตลอดเวลาเหมือนขับรถในเมืองไทย นี่แอนจังไม่ได้เข้าข้างประเทศญี่ปุ่นนะคะ แต่ว่ามันรู้สึกจริง ๆ คะ มีคนบอกว่าถนนที่ญี่ปุ่นนี่ด้านใต้ของถนนเขาจะทำเป็นรูปพรุน ๆ ไว้เพื่อเมื่อเวลาที่ฝนตกก็จะสามารถระบายน้ำได้ดีเพราะน้ำสามารถซึมผ่านผิวถนนลงไปสู่ท่อระบายน้ำด้านล่างได้เลยคะ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีน้ำท่วมนะคะ ในบางครั้งก็ยังมีปัญหาน้ำท่วมเหมือนกันคะ.... ส่วนถนนที่เป็นทางขึ้นภูเขาที่ญี่ปุ่นเขาก็จะทำให้มันมีสภาพที่ขรุขระอย่างตั้งใจคะเพื่อชะลอความเร็วของรถ ส่วนทางด่วนที่ญี่ปุ่นนี่แทบจะไม่มีคนมานั่งเก็บเงินเพราะเขาใช้ระบบเซ็นเซอร์คอยตัดเงินจากรถที่วิ่งผ่านแบบอัตโนมัติ พอเงินเราหมดก็สามารถเติมเงินได้จากเครื่องอัตโนมัติคะ |

ต้นไม้ริมทางเห็นทั่วไปในญี่ปุ่น |

ตึกสูงมากมาย
|

สีสรรของตึก
|

สัญญาณไฟที่ญี่ปุ่นเป็นแนวนอน |

ตึกออฟฟิศกลางเมือง |

ทางลงรถไฟใต้ดิน
|

ทางลงรถไฟใต้ดิน |

สี่แยกแถว Yokohama |

ราคาที่จอดรถ 12 ชั่วโมง 1,500 เยน
|

ห้ามติดเครื่องหากรถจอดอยู่เฉย ๆ
|

ใกล้ถึง Shibuya เริ่มเห็นตึกหนาแน่น |
|
กฎจราจร - คนญี่ปุ่นเคารพกฎจราจรมาก เท่าที่แอนจังเห็นค่อนข้างขับรถกันอย่างเป็นระเบียบไม่ค่อยเห็นรถที่ขับแบบปาดหน้า หรือแซงแบบหน้าเกลียดให้เสียอารมณ์ ไม่มีเสียงแตรรถบีบกันระงม พอไฟเปลี่ยนเป็นสีเหลืองรถทุกคันก็จะหยุดหลังเส้นสีขาว ไม่เห็นมีใครหยุดรถล้ำเส้นสีขาวเลย และอีกอย่างคือข้ามถนนที่ญี่ปุ่นไม่ต้องกลัวรถชนคะ เพราะคนญี่ปุ่นจะเห็นคนเดินสำคัญกว่าคนขับรถจะว่าไปแล้วก็ค่อนข้างจะมีวินัยในการใช้ถนนกันมาก ถึงมากที่สุด เวลาข้ามถนนถ้าเป็นถนนใหญ่ในเมืองก็จะมีไฟคนข้ามถ้าจะข้ามก็ต้องกดปุ่มเพื่อรอสัญญาณคนข้าม (เหมือนที่เชียงใหม่ก็มี) แต่หากเป็นถนนเส้นเล็ก ๆ นอกเมืองไม่มีไฟคนข้ามก็จะมีธงสีเหลืองผูกไว้ข้างเสาทั้งสองฝากถนน ถ้าจะข้ามก็แค่ดึงเอาธงสีเหลืองออกมาโบกเพื่อให้รถหยุดแล้วก็เอาไปเสียบไว้อีกฝากของถนน ดูแล้วน่ารักดีคะ |

ตึกสูงตั้งตระหง่าย |

เข้า Shibuya รถเริ่มติดแล้ว |

ป้ายห้ามกลับรถเขียนว่า kokokara |

ร้านน้องหมามุมถนน
|

Tokyo Tower สัญญาลักษณ์ของ Tokyo |

อีกมุมของ Tokyo Tower
|

แม่น้ำ |

ย่าน Shibuya |

Shibuya ตอนเช้า
|
ตู้กดแสนสะดวกในญี่ปุ่น - ประเทศญี่ปุ่นมีกิตติศัพท์เรื่องตู้กดสาระพัดชนิดมากที่สุดในโลก แอนจังเห็นตู้กดน้ำ กดอาหาร กดบุหรี่ อยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นเรียกได้ว่าทุก ๆ ร้อยเมตรจะต้องมีตู้กดสาระพัดประโยชน์ ไปไหนในญี่ปุ่นไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีน้ำดื่ม ยิ่งในตู้กดน้ำนั้นมีน้ำเยอะแยะมากมายหลายชนิดหลายยี่ห้อ นอกจากน้ำชา น้ำอัดลมแล้วก็ยังมีน้ำแปลก ๆ อีกหลายอย่างซึ่งแอนจังไม่ได้ลองกดน้ำแปลก ๆ มาดื่มคะ เพราะไม่ค่อยคุ้นกับขวดที่ใส่เลยไม่กล้าลอง อย่างกาแฟกระป๋องราคาจะอยู่ราว ๆ 120 เยน ต่อหนึ่งกระป๋องค่ะ เอาไว้ไปญี่ปุ่นคราวหน้าจะหาภาพตู้กดน้ำแปลก ๆ มาให้ดูกันมากกว่านี้นะคะ |

ตู้กดไอศกรีม |

ตู้กดน้ำ |

ตู้กดคูปองอาหาร |
ตู้กดอาหารในโรงแรม |

ข้างในตู้กดอาหาร |
ดูซิ..มีอะไรให้กดบ้าง |
ตู้กดคูปองก่อนเข้าไปซื้ออาหาร |
ตู้กดคูปองแลกราเมง |
ตู้กดสาระพัดน้ำ |
รถ - ที่ญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถตู้ รถบรรทุก รถโม่หิน รู้สึกว่าจะถูกย่อส่วนให้ดูเล็กกระทัดรัดไปซะหมดเหมือนรถของเล่นยังไงหยั่งงั้นเลยค่ะ รถหลาย ๆ รุ่น หลาย ๆ ยี่ห้อไม่มีให้เห็นในเมืองไทย อาจจะเป็นไปได้ว่าที่ต้องย่อขนาดรถให้เล็กลงก็อาจจะเป็นเพราะว่าที่จอดรถในญี่ปุ่นค่อนข้างมีน้อยจึงต้องทำรถให้เล็กลงเพื่อจะได้ประหยัดเนื้อที่ในการจอดรถ หรือไม่ก็เพราะน้ำมันแพงจึงต้องทำให้รถเล็กลงจะได้กินน้ำมันน้อยลงรึป่าว ที่ญี่ปุ่นน้ำมันราคาประมาณลิตรละ 55 บาท เมืองไทยแค่จะขึ้นถึง 30 บ. ยังเกือบจะต้องกินแกลบกันทั้งเมือง นี่ถ้าราคาน้ำมันเท่าที่ญี่ปุ่นไม่ต้องใช้จักรยานกันทั้งประเทศเลยรึยังไง แต่ที่ญี่ปุ่นคนก็ใช้จักรยานกันเยอะมากเลย ได้ยินมาว่ารถจักรยานที่ญี่ปุ่นคุณภาพดีมากน้ำหนักเบา และใช้ทนมากและมีที่จอดจักรยานมากมาย แถมด้วยเลนส์เฉพาะสำหรับจักรยานด้วยค่ะ |

รถบัสนักเรียนอนุบาล
|
มีลายปังแมนน่ารัก |

ทางด่วนจำกัดความเร็วแค่ 80 km ต่อชั่วโมง |

มีที่จอดรถสำหรับคนพิการด้วย
|

รถรุ่นแปลก ๆ ที่เมืองไทยไม่มี |

รถเล็ก ๆ เพียบเลย |

รถจากศูนย์ Honda |

รถหน้าตาน่ารักเหมือนในการ์ตูน |

คนญี่ปุ่นนิยมขับรถคันเล็ก ๆ กัน |

รถยี่ห้อนี้ขายดีมาก |
|

ป้ายทะเบียนรถญี่ปุ่น |

จักรยานที่ญี่ปุ่นคุณภาพดีมาก |

มีที่จอดจักรยานอยู่ทั่วไป |
น้ำมันลิตรละประมาณ 150 เยน
(50 บ.) |
Shinkanzen - แอนจังโชคดีทีได้นั่ง Shinkazen รถไฟที่เร็วที่สุดในโลกหรือรถไฟหัวกระสุนซึ่งมีความเร็วถึง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และปัจจุบันนี้ Shinkanzen หัวเป็ดก็ได้แย่งเอาตำแหน่งแชมป์รถไฟที่เร็วที่สุดจากหัวกระสุนมาได้แล้ว และถึงแม้จะนั่งในระยะใกล้คือจาก Kyoto ถึง Osaka เท่านั้นซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที หากนั่งรถไปก็จะกินเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นั่งคราวนี้จ่ายไป 1,380 เยน ค่ะ |

สถานี JR Kyoto Station |

ป้ายบอกทาง |

ตั๋ว Shinkanzen จาก Kyoto - Osaka |

จ่ายไป 1,380 เยน นั่งระยะใกล้ |

ป้ายบอกเวลารถเทียบชานชาลา |

แม่บ้านที่เกียวโตพากันใส่ชุด
Michiyuki
รอขึ้นรถไฟเพื่อไปงานอะไรสักอย่าง |

Shinkanzen วิ่งผ่านไปแล้ว |

Shinkasen หัวเป็ดเร็วที่สุดในญี่ปุ่น |

ผ่านไปอีกแล้ว |

รีบกดชัตเตอร์เดี๋ยวถ่ายไม่ทัน |

ที่ยืนรอรถ |

ต้องยืนเข้าแถวตามช่องสีเทาคะ |