Sadako
กับนกกระดาษ 1,000 ตัว
Sadako
Sasaki เกิด 7 มกราคม ค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) เมื่อเธออายุได้
2 ขวบมีการทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิมา ทำให้ Sadako ได้รับผลพวงจากการทิ้งระเบิดครั้งนั้นคือโรคมะเร็งเม็ดโลหิต
(ลูคิเมีย)
Sadako Sasaki เด็กหญิงชาวญี่ปุ่น เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเม็ดโลหิต
(ลูคิเมีย) ขณะอายุได้ 11 ปี เนื่องจากได้รับสารกัมมันตภาพรังสีจากระเบิดปรมาณูที่สหรัฐฯ
ทิ้งถล่มฮิโรชิมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488)
ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนเสียชีวิต ซาดาโกะพยายมพับนกกะเรียนกระดาษด้วยมือที่บวมเป่งและเจ็บปวดมาก
ด้วยความเชื่อว่าหากพับนกได้ครบหนึ่งพันตัว เธอจะหายจากโรคภัย
แต่เธอก็จบชีวิตลงเมื่อพับนกกะเรียนได้เพียง 644 ตัวเท่านั้น
ร่างของ Sadako ถูกฝั่งพร้อมกับนกกระดาษ 1,000 ตัว ที่เพื่อน
ๆ ช่วยกันพับนกกระดาษจนครบ และมีการปั้นรูปปั้นของ Sadako
ไว้ที่ Hiroshima Peace Park ในปี ค.ศ. 1958 โดยมีข้อความที่ฐานของรูปปั้นเรียกร้องสันติภาพ
ความว่า "This is our cry, This is our prayer, Peace
in the world." การต่อสู้ของซาดาโกะเป็นแรงบันดาลใจในการแสวงหาสันติภาพของคนทั่วโลก
ไม่กี่ปีหลังจากซาดาโกะเสียชีวิต มีการสร้างอนุสาวรีย์ซาดาโกะขึ้นที่สวนสันติภาพ
ณ เมืองฮิโรชิมาเพื่อรำลึกถึงซาดาโกะและเด็กที่เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณูเรื่องราวของซาดาโกะเป็นทีมาของบทประพันธ์เรื่อง
"ซาดาโกะกับนกกะเรียนพันตัว" (Sadako and the
thousand papar cranes)
ทำไมต้องเป็นฮิโรชิม่า
และนางาซะกิ??
สงครามโลกครั้งที่
2 ญี่ปุ่นยอมแพ้ เนื่องจากโดนระเบิดนิวเคลียร์ไป 2 ลูก
เคยสงสัยไหมว่า...ทําไมต้องเป็นฮิโรชิมา นางาซากิ ทําไมไม่ใช่โตเกียวหรือโอซาก้า
ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่กว่าฮิโรชิมา ... ทําไม?
ช่วงเริ่มสงครามใหม่ๆ ญี่ปุ่นก็ท่าทางจะไปได้สวย บุกไปถล่มอ่าวไข่มุก
(Pearl Harbour) ที่เกาะฮาวายของอเมริกา โดยที่อเมริกาทําอะไรไม่ได้เลย
ในแถบเอเชียไม่ว่าจะไปบุกที่จีน เกาหลี ไม่ว่าที่ไหน ๆ
ไม่มีใครต้านญี่ปุ่นได้ กองกําลังของญี่ปุ่นเข้มแข็งมาก
แต่...พอถึงช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเกาะหรือจะมาต้านประเทศมหาอํานาจอย่างอเมริกาได้
ญี่ปุ่นเริ่มอ่อนแอ เรือบรรทุกนํ้ามันที่นํานํ้ามันมาจากประเทศอินโดนีเซียก็โดนโจมดี
เชื้อเพลิงไม่มี เรือที่ขนเสบียงก็โดนตี ...จมทะเลก่อนจะไปถึงจุดหมาย
คนญี่ปุ่นที่ไปรบในแถบอาเซียนเสียชีวิตเป็นจํานวนมาก จากการขาดเสบียงอาหารและยารักษาโรค
ในประเทศญี่ปุ่น เครื่องบินอเมริกาบินมาถล่มญี่ปุ่นทุกคืน
เมืองใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นโตเกียว โอซาก้า นาโกย่า โดนถล่มแทบจะเป็นเมืองร้าง
ทั้งทหารและพลเรือนเสียชีวิตเป็นจํานวนมาก แสนยานุภาพของเครื่องบินรบญี่ปุ่นช่วงหลังสงครามก็แทบจะทําอะไรเรือรบอเมริกาไม่ได้เลย
เมื่อสุนัขจนตรอก มันทําได้อย่างเดียวคือ วิ่งชนเพื่อเอาตัวรอด
หน่วยรบพิเศษ คามิกาเซะ ก็เกิดขึ้นมา แต่ก่อนที่จะชนเรือรบอเมริกาได้
ก็โดนยิงร่วงตกก่อนซะเป็นส่วนมาก เมืองโตเกียว และ เมืองทหารของญี่ปุ่นเกือบทุกแห่ง
ตอนปลายสงคราม...อย่างที่บอกไปแทบจะเป็นเมืองร้าง แต่...ยังมีอยู่อีกเมืองหนึ่ง
ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมทางการทหาร มีโรงงานมากมาย เด็กๆ
ญี่ปุ่นตัวน้อยๆ จํานวนมากถูกเกณฑ์มาสร้างอาวุธนี่นั่น
... สงครามก็ทํามานานแล้ว แต่เมืองนี้แทบจะไม่ได้รับอิทธิพลจากสงครามเลย...ใช่แล้ว...เมืองใหญ่เมืองนี้คือ
ฮิโรชิมา ตั้งแต่อ่าวไข่มุกของอเมริกาโดนญี่ปุ่นถล่มยับเยิน
ก็มีโครงการเกิดขึ้นโครงการหนึ่ง...เป็นโครงการที่เร่งเครื่องไปข้างหน้าอย่างลับๆ
โครงการนั้นคือ โครงการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกของโลก
ประสบผลสําเร็จในกลางปี คศ. 1945 ก่อนที่อเมริกาจะนําไปทิ้งที่
ฮิโรชิมา เพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น ทําไมอเมริกาต้องรีบเอาไปทิ้ง
เหตุผลที่ต้องรีบก็มีหลายอย่าง
ต้องการยุติสงครามให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้
เพื่อลดการสูญเสียของอเมริกา ต้องการชนะญี่ปุ่นก่อนที่โซเวียต(รัสเซียปัจจุบัน)
จะเข้าร่วมสงครามอย่างจริงจัง... เดี๋ยวอด
ต้องการทดสอบแสนยานุภาพของระเบิดชนิดใหม่
แล้วทําไมเลือกฮิโรชิมา
ความจริงเมืองที่อเมริกาเลือกไว้เป็นเป้าหมายของระเบิดมีเกือบ
20 แห่ง แล้วก็ค่อยๆ ตัดออกไปจนเหลือ 2-3 เมือง หนึ่งในนั้นคือ
ฮิโรชิมา เหตุผลที่อเมริกาเลือก ฮิโรชิมา ก็คือ ฮิโรชิมาเป็นเมืองทหาร
มีกองทัพทหาร โรงงานผลิตอาวุธมากมาย แต่ยังไม่ได้รับความเสียหายจากสงคราม
ฮิโรชิมาตั้งอยู่ในที่ราบ เหมาะสมที่จะทดสอบแสนยานุภาพของระเบิด
แล้ว...วันที่ 6 เดือนสิงหาคม คศ. 1945 เวลา 8:15 นาฬิกา
ระเบิดนิวเคลียร์ที่มีชื่อว่า Little Boy ก็ได้นําไปทิ้งที่
เมืองฮิโรชิมา มีผู้เสียชีวิตเป็นจํานวนมาก แล้วอีก 3
วันต่อมา ระเบิดนิวเคลียร์ที่มีชื่อว่า Fat Man ก็ได้นําไปทิ้งที่
เมืองนางาซากิ แน่นอนมีผู้คนเสียชีวิตจํานวนมากเช่นกัน
ในที่สุดญี่ปุ่นก็ต้องยอมแพ้สงคราม ปัจจุบันนี้เมืองฮิโรชิมาได้ฟื้นตัวกลับมาเป็นเมืองที่น่าอยู่เหมือนเดิมแล้ว
ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยว ขอแนะนําให้ไปเที่ยวที่ Hiroshima
Peace Memorial Museum แล้วทุกคนจะรู้ว่าสงครามมันน่ากลัว
เป็นสิ่งที่พวกเราต้องช่วยกันต่อต้านขนาดไหน ละครชีวิต...
หลายเรื่อง เกิดขึ้นที่ฮิโรชิมา แน่นอนทุกเรื่องเป็น ละครเศร้า / Hokutoda
เกิดสงครามโลกครั้งที่สองได้ยังไง??!!
ในปี
ค.ศ. 1920 ญี่ปุ่นประสบกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก
จนรัฐบาลเริ่มอ่อนแอ แนวคิดเรื่องการปกครองแบบเผด็จการ
ของยุโรป เริ่มระบาดในหมู่ขุนทหารญี่ปุ่น และยังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่อยู่ในสภาวะอับจนทางเศรษฐกิจด้วย
กองทัพเริ่มแยกตัวเป็นอิสระจากการบังคับบัญชาของรัฐบาล
จนในปี ค.ศ.1931 กองทัพญี่ปุ่นก็เข้ายึดแมนจูเรียของจีน
โดยที่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ทราบเรื่อง จึงเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากองทัพไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาล
จากนั้นอีก 4 ปี กองทัพญี่ปุ่นได้ก่อการรัฐประหารเพื่อล้มรัฐบาล
แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ แต่เหล่าขุนพลเหล่านั้นกลับยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้น
จนในปี ค.ศ. 1941 นายพลฮิเดกิ โตโจ นายทหารคนสำคัญก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
และนับตั้งแต่นั้นมาประเทศญี่ปุ่น ก็มีรูปแบบการบริหาร
แบบฟาสซิสต์เหมือนในยุโรป
หลังจากที่ฝรั่งเศสปราชัย
ในปี 1941 และเยอรมนีได้อิตาลีมาเป็นพวกยิ่งทำให้ฮิตเลอร์เหิมเกริม
ยกทัพไปบุกเข้าตีรัสเซีย รัสเซียได้ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วบ้าง
สตาลิน ผู้นำรัสเซียในขณะนั้น จึงได้ยกกำลังทหารเข้ายึดโปแลนด์ซึ่งเยอรมนียึดได้ก่อนหน้านี้
และขอแบ่งโปแลนด์มาครอบครองครึ่งหนึ่ง และรัสเซียยังได้เข้ายึดครองฟินแลนด์อันเป็นชัยภูมิที่สำคัญ
เพราะเป็นประเทศหน้าด่านที่จะบุกเข้าสู่รัสเซียไว้ก่อนหน้านั้นแล้วแต่รัสเซียก็ยังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ในการรบ
ทำให้สถานการณ์สงครามขยายวงออกไปอีก สถานการณ์ทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิก
ในเขตเอเซียเริ่มตึงเครียด เพราะญี่ปุ่นหาเหตุรุกรานเพื่อนบ้านด้วยเช่นกัน
จนประธานาธิบดีรูสเวลต์ ต้องออกกฎหมายห้ามส่งออกสินค้าที่เป็นยุทธปัจจัยพื้นฐานให้
เพื่อยับยั้งการก่อสงครามของญี่ปุ่น และต่อมาก็ได้อายัดทรัพย์สินของชาวญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด
ขณะที่ทูตญี่ปุ่นกำลังดำเนินการเจรจาทางการทูต
เพื่อแก้ไขปัญหากับสหรัฐฯอยู่นั้น เช้าวันที่ 7 ธันวาคม
ปี ค.ศ.1941 กองทัพญี่ปุ่นก็ได้บุกเข้าตีฐานทัพของสหรัฐอเมริกาที่เกาะเพิร์ลฮาร์เบอร์อันเป็นเกาะเล็กๆในหมู่เกาะฮาวาย
อันเป็นฐานทัพใหญ่ของสหรัฐฯที่คุมกำลังด้านพื้นแปซิฟิก
โดยที่สหรัฐฯเองไม่ทันตั้งตัว ขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็ยกกำลังอีกทางหนึ่งเข้าบุกประเทศแถบเอเซียอาคเนย์
อันรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้าที่ญี่ปุ่นโจมตีเกาะเพร์ลฮาร์เบอร์
เพียงวันเดียว รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพิ่งอนุมัติเงินก้อนใหญ่เพื่ออุดหนุนการวิจัยเรื่อง
พลังงานนิวเคลียร์ อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก และ การที่ญี่ปุ่นเข้าโจมตีเพร์ลฮาร์เบอร์ในครั้งนั้นเอง
จึงเป็นการผลักดันให้ทั้ง 2 ชาติ กระโจนเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่
2 อย่างเต็มตัว
จนถึงปี
ค.ศ. 1944 สถานการณ์สงครามโลกเริ่มคลี่คลายไปมาก ฝ่ายอักษะเริ่มปรากฎลางแพ้
เมื่อกองทัพฝ่ายพันธมิตรบุกอย่างหนัก อิตาลีปราชัยต่อฝ่ายพันธมิตร
ประเทศต่างๆที่เคยถูกอักษะยึดครองไว้ ได้รับการการปลดปล่อย
จนในเดือน เมษายน ค.ศ. 1945 ฝ่ายพันธมิตรก็ได้รับชัยชนะต่อเยอรมนีอย่างเด็ดขาด
โดนกองทัพรัสเซียซึ่งเป็นฝ่ายสัมพันธมิตรได้เข้ายึดครองเยอรมนีได้สำเร็จ
และฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายเดือนเดียวกันนั้นเองประธานาธิบดีรูสเวลต์ก็ล้มป่วยและเสียชีวิต
แฮร์รี่ ทรูแมน รองประธานาธิบดีในขณะนั้นเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแทน
สหรัฐอเมริกาทิ้ง
(ทดลอง) ระเบิดปรมณูกับเมืองฮิโรชิม่า
จนเมื่อการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ประสบความสำเร็จ
สหรัฐอมเริกาจึงเตรียมที่จะใช้อาวุธมหาประลัยนี้เผด็จศึกญี่ปุ่นโดยฝ่ายสัมพันธมิตรได้ยื่นคำขาดให้ญี่ปุ่นยอมจำนน
แต่ญี่ปุ่นไม่สนใจ และแล้วในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 เครื่องบิน
บี-29 ของสหรัฐอเมริกาชื่อ "เอนอลาเกย์" ก็ได้ปฎิบัติภารกิจครั้งประวัติศาตร์
คือการนำระเบิดปรมณูไปถล่มเมืองฮิโรชิมา ระเบิดปรมณูลุกนี้ชื่อว่า
"ลิตเติลบอย" มีแรงระเบิดขนาด 15 กิโลตัน หรือเทียบเท่ากับดินระเบิด
ทีเอ็นที 15000 ตัน ซึ่งประมาณระเบิดขนาดนี้หากใช้รถบรรทุกสิบล้อขน
ก็ราว 750 เที่ยวทีเดียว
เมืองฮิโรชิมา
เป็นเมืองที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่นและแม้ว่าชาวญี่ปุ่นจะรู้ล่วงหน้าว่า
สหรัฐฯ จะทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ แต่ก็หามีใครตะหนักถึงอนุภาพของมัน
เมื่อเอนอลาเกย์ ถึงที่หมาย นักบินจึงปล่อยระเบิดนิวเคลียร์
และรับออกจากที่หมายโดยเร็วที่สุด ระเบิดนิวเคลียร์เกิดปฎิกิริยาลูกโซ่
และระเบิดกลางอากาศขณะที่ลอยอยู่เหนือเมืองฮิโรฮิมา ที่ความสูง
600 เมตร เกิดเป็นควันขาวอมเขียวพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นรูปดอกเห็ดสูงถึง
10 กิโลเมตร อันเป็นลักษณะเฉพาะของระเบิดนิวเคลียร์ และแสงสว่างอันเจิดจ้า
พลังงานอีนมหาศาลที่ถูกปลดปล่อยออกมาในรูปของแรงอัดอากาศ
จากการระเบิด ความร้อนและกัมมันตภาพรังสี โดยที่ศูนย์กลางของการระเบิดนั้นมีอุณห๓ูมิสูงถึง
3800 องศาเซลเซียส
ผลการระเบิดทำให้เกิดแรงลมขนาด
1600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รุนแรงกว่าพายุเฮอริเคนที่รุนแรงที่สุดถึง
5 เท่า พลานุภาพของเจ้าเด็กน้อย ลิตเติลบอย หรือระเบิดนิวเคลียร์
มากมายจนชาวญี่ปุ่นคิดไม่ถึง ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่น กำลังตื่นตระหนกต่ออำนาจของระเบิดนิวเคลียร์
ประธานาธิบดี ทรูแมน แห่งสหรัฐอเมริกา ก็ได้ยืนคำขาดอีกครั้งเพื่อให้ญี่ปุ่นยอมจำนนแต่โดยดี
แต่รัฐบาลญี่ปุ่นเพิกเฉย ในที่สุด ทรูแมน จึงได้สั่งให้ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มญี่ปุ่นเป็นลูกที่
2 และระเบิดลูกนี้ มีชื่อว่า "แฟทแมน" เพราะว่าขนาดอ้วนและใหญ่โตกว่าลูกแรกเป้าหมายของระเบิดลูกที่
2 นี้ ก็คือ เมืองนางาซากิ
และแล้วในวันที่
9 สิงหาคม ปี ค.ศ.1945 คืออีก 3 วันถัดมาโศกนาฎกรรมของมนุษยชาติ
อีกฉากหนึ่งก็ได้อุบัติขึ้น เมืองนางาซากิ พินาศย่อยยับในพริบตาด้วยอำนาจของเจ้าคนอ้วน
หรือ แฟทแมนในที่สดุรัฐบาลญี่ปุ่นก็ประกาศยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไขทั้งนี้เพื่อรักษาชีวิตของประชาชนไว้
เพราะไม่แน่ว่าอาจจะมีระเบิดลูกที่ 3 ตามมาอีกส่วนพิธีลงนามอย่างเป็นทางการนั้น
ได้จัดขึ้นในปลายเดือนนั้น
สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงแล้ว ผลของระเบิดนิวเคลียร์ทำให้เมืองฮิโรชิมา
มีผู้เสียชีวิตทันทีจากการระเบิด ประมาณ 70,000 คน
มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตภายหลังในปีเดียวกันอีกราว
70,000 คน และผู้ที่เสียชีวิตภายหลังนี้ต้องได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสก่อนเสียชีวิต
จากแผลไฟลวก และผลจากกัมมันตภาพรังสี และประมาณอีก 60,000
คนเสียชีวิตในอีก 6 ปี ถัดมา ส่วนใหญ่เป็นผลจากกัมมันตภาพรังสี
รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตกว่า 200,000 คน
ส่วนที่นางาซากินั้น
มีชะตากรรมไม่แพ้กัน ผู้เสียชีวิตในทันที 70,000 คน บาดเจ็บอีกราว
80,000 คนซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ผลของกัมมันตภาพรังสี
ยังทำให้ผู้ที่ได้รับรังสีกลายเป็นมะเร็งในภายหลังได้อีกด้วย
ในส่วนนี้ไม่สามารถประเมินได้แน่นอนว่ามีจำนวนเท่าใด ยังไม่รวมถึงความผิดปกติทางพันธุกรรม
อันเป็นผลจากกัมมันตภาพรังสีที่ตกค้างอีกด้วย
มีคนบอกว่า
หลังจากที่ฮิโรชิมา โดนระเบิดไปในคราวนั้นแม้กระทั่งต้นไม้
ก็ยาก ที่จะมีโอกาสงอกขึ้นใหม่ ผู้คนอยู่ในอาการขวัญเสีย
มีคนเจ็บป่วยและรอคอยความตายมากมาย คนตาย ก็ตายไป คนอยู่
ก็ต้องเจ็บปวดเพราะต้องสูญเสียคนที่รักไป ต้องอยู่กับสภาพบ้านเรือนที่ผุพัง
และแวดล้อมไปด้วยความทรงจำที่เลวร้าย การอยู่โดยการไม่เบียดเบียนกันและอยู่ด้วยความพอดี
ดีที่สุดแล้ว
อนุสรณ์รำลึกถึงความโหดร้ายของนิวเคลีย์