นักเตะแนวหน้าของทีม
ุ 
ชุนสุเกะ นากามูระ - ซ้ายทลายโลก
ถึงทีมชุดนี้จะมีชื่อของดาราดังอย่าง ชินจิ โอโนะ กับ ฮิเดโตชิ นากาตะ แต่ผู้เล่นที่เป็นความหวังของชาวญี่ปุ่นมากที่สุดกลับกลายเป็น ชุนสุเกะ นากามูระ กองกลางที่ไม่มีชื่อใน 23 คนในทีมชุดฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว นากามูระ พิสูจน์ให้เห็นแล้วในศึกเอเชี่ยนคัพ จากการที่เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์เกมในยามที่นักเตะหลายๆ คนจากต่างแดนไม่ได้ร่วมศึกไปด้วย ในฤดูกาลที่ผ่านมาก็เป็นที่ชัดเจนว่า นากามูระ คือนักเตะที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นชุดนี้ด้วยการเป็นผู้เล่นหลักของ กลาสโกว์ เซลติก แชมป์สกอตแลนด์ ที่ถือว่าเป็นผลงานที่ดีกว่า นากาตะ กับ โบลตัน และ โอโนะ ที่กลับไปอยู่กับ อุราวะ เรดไดมอนด์ส
ชุนซึเกะ นากามูระ ก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในแผงห้องเครื่องทีมชาติญี่ปุ่น ภายใต้การคุมทีมของ ซิโก จากผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติ
หากใครเคยชมฟอร์มของเขา จะเห็นว่า นากามูระ มีจุดเด่นที่ การปั้นเกม การจ่ายบอลอันเฉียบคม จากเท้าซ้ายที่ถนัด ที่สำคัญคือฟรีคิกที่เฉียบขาด พังตาข่ายมานับไม่ถ้วน
มิดฟิลด์หัวเห็ด วัย 28 ปี เริ่มต้นค้าแข้งกับ โยโกฮามา มารินอส ทีมในเจลีก ตั้งแต่ปี 1997 ก่อนจะย้ายไปร่วมทัพ เรจจินา ทีมในกัลโชเซเรียอา อิตาลี ในฤดูกาล 2002
นากามูระ ค้าแข้งกับ เรจจินา 3 ปี ลงสนาม 31 นัด ยิง 7 ประตู ฟอร์มไปเข้าตา มะพร้าวห้าว กอร์ดอน สตรัคคัน กุนซือกลาสโกว์ เซลติก เข้าอย่างจัง
ปี 2005 สตรัคคัน ไม่ลังเลที่จะควักเงิน 2.5 ล้านปอนด์ แย่ง นากามูระ จาก แอตเลติโก มาดริด และ ลา คอรุนญา เพื่อดึงมาร่วมถิ่นม้าลายเขียวขาว และช่วยทีมคว้าแชมป์สก็อตติชพรีเมียร์ ที่เพิ่งจบไป
บนเส้นทางทีมชาติ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว นากามูระ ต้องพบฝันร้าน เมื่อ พ่อมดขาว ฟิลลิปป์ ทรุสซิเยร์ ตัดเขาออกจากชุดบอลโลก ในบ้านตัวเอง โดยให้เหตุผลว่า มี ฮิเดโตชิ นากาตะ ที่เล่นตำแหน่งเดียวกันอยู่แล้ว
ทว่าหลังจาก ทรุสซิเยร์ โบกมือลา ญี่ปุ่น เข้าสู่ยุค ซิโก นากามูระ ก็กลายเป็นกำลังสำคัญของทีม โดยผลงานที่ยังอยู่ในความทรงจำคือ ศึกคอนเฟดเดอเรชันส์คัพ ปีที่แล้ว ที่เขาปั่นฟรีคิกทะลวงตาข่าบ บราซิล ในเกมที่เสมอกัน 2-2 โดยก่อนหน้านั้นในปี 2004 ก็เพิ่งนำทีมคว้าแชมป์เอเชียนคัพ ที่ประเทศจีน
บอลโลก 2006 จะเป็นศึกใหญ่ที่สุดในชีวิตของ นากามูระ ซึ่งต้องติดตามกันว่า ในวัยที่เขาบ่มเพาะประสบการณ์ และฝีเท้าสุกงอม มิดฟิลด์ซ้ายทลายโลก จะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเพียงใด

ชินจิ โอโนะ - ซูเปอร์ รุคกี้

ชินจิ โอโนะ เกิดเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2522 เป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ศึกษาในระดับไฮสคูลที่โรงเรียนชิมิซุ โชกู เริ่มเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก แต่มาเริ่มเล่นจริงจังเมื่ออายุได้ 17 ปี กับทีมอูราวะ เร้ด ไดมอนด์ส ซึ่งค้าแข้งมาจนปัจจุบัน
ชินจิ สูง 175 ซ.ม. หนัก 78 ก.ก. การได้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์และมีความสามารถสูงขนาดนี้ทำให้เขาแทบจะไม่เคยเสียเปรียบคู่ต่อสู้เลย แถมยังเป็นมิดฟิลด์รูปร่างสูงใหญ่ที่ครองบอลได้ดีและในทีมชาติก็เล่นเข้าขากับนากาตะเป็นอย่างดีอีกด้วย ทักษะการครองบอลก็ยอดเยี่ยม เป็นมิดฟิลด์ที่ยิงประตูได้ดีและมักจะเป็นประตูที่สำคัญด้วย สื่อมวลชนในญี่ปุ่นตั้งฉายาเขาว่า "ซูเปอร์ รุคกี้"
เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งเอเชียประจำปี 2002 ผู้มี ดีเอโก้ มาราโดน่า เทพเจ้าลูกหนังของปวงชนชาวอาร์เจนไตน์ เป็นนักเตะขวัญใจเหมือนกับใครๆ อีกหลายคน เจิดจรัสขึ้นมาในฐานะเด็กสร้างมหัศจรรย์ของ อูราวะ เร้ดส์ ไดมอนด์ ก่อนย้ายไปดังสุดขีดกับ เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม แห่งศึกพรีเมียร์ดัตช์ เมื่อปี 2001 ฝากผลงานชั้นยอดด้วยการยึดตำแหน่งตัวจริงและพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ มาครองได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ไปร่วมทีม
ในญี่ปุ่น โอโนะ มีชื่อเล่นที่แฟน ๆ ตั้งให้ว่า "เทนไซ" หรือ "จีเนียส" (อัจฉริยะ) สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ โดยในระดับชาติ อายุ15 ก็เริ่มฉายแววแล้ว เมื่อร่วมทัพ "ซามูไรจิ๋ว" เดินทางมาคว้าแชมป์เยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศไทย คว้าตั๋วผ่านไปร่วมชิงชัยในศึกฟุตบอลชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่เอกวาดอร์ และปี 1998 มีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ไปร่วมแข่งขันในศึกเวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย ที่ประเทศฝรั่งเศสด้วย ขณะมีวัยเพียง 18 ปี
ปี 1999 สวมบทกัปตันพาทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นยู-20 คว้ารองแชมป์เยาวชนโลกอย่างยิ่งใหญ่ที่ประเทศไนจีเรีย และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ พร้อมกับซิวตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชียประจำปีนั้นไปครองตามความคาดหมาย
มาถึงปีล่าสุดนี้ แม้เส้นทางชีวิตค้าแข้งของ โอโนะ กับ เฟเยนูร์ด จะมีปัญหาหลายๆ อย่างรุมเร้าโดยเฉพาะอาการบาดเจ็บ จนทำให้ต้องหวนกลับมาซบ อูราวะ ถิ่นเก่า ปิดฉากชีวิตค้าแข้งในถิ่น เดอ ไคป์ สเตเดี้ยม ด้วยสถิติลงเล่นทั้งสิ้น 111 นัด ยิงได้ 19 ประตู แต่กับทีมชาติญี่ปุ่นแล้ว นั่นไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลย ขอเพียงไม่เจ็บไม่ไข้เกินเยียวยาเท่านั้น ยังไงความอัจฉริยะของ "เทนไซ" ก็โดนใจ ซิโก้ ผู้เป็นเจ้านาย รวมถึงฝ่ายสนับสนุนไม่ยอมเปลี่ยนแปลง [www.shinji-ono.tv]
ฮิเดโตชิ นากาตะ
ว่ากันว่านอกจากกัปตัน "ซึบาสะ" (จากการ์ตูนเรื่องเจ้าหนูสิงห์นักเตะ) แล้ว ก็มีกัปตัน "ฮิเดะ" นี่แหละที่น่าจะเป็นนักเตะญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุโรป นากาตะเป็นนักเตะญี่ปุ่นที่มีรัศมีความเป็นอินเตอร์สูงพอๆ กัน ตกเป็นข่าวดังก่อนฟุตบอลโลก ว่าเคยมีปัญหากับโค้ชทรุซซิเยร์ เพราะเที่ยงคืนต้องออกจากค่ายเก็บตัวไปหาแฟนสาวที่เป็นนางแบบ สรุปว่ามีแฟนแล้ว
ส่วนประวัติส่วนตัว มีชื่อเล่นว่า "ฮิเดะ" เกิดเมื่อ 22 ม.ค. 2518 ที่เมืองโคฟู แคว้นยามานาจิ เป็นเจ้าของความสูง 175 เซนติเมตร หนัก 72 กิโลเมตร และเลือดกรุ๊ปโอ
ระหว่างที่เรียนหนังสือก็เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 8 ขวบเหมือนกับเด็กผู้ชายทั่วไป แต่ที่โดดเด่นคือฝีเท้า ทำให้เป็นสมาชิกทีมโรงเรียนจูเนียร์ ไฮสคูลที่บ้านเกิด และได้รับเลือกติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดอายุต่ำกว่า 15 ปี
จากนั้นจึงย้ายไปเรียนที่นิราซากิ ไฮสคูล และลงเล่นในฟุตบอลเนชั่นไวด์ ไฮสคูล ซอคเกอร์ แชมเปี้ยนชิพ และติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดอายุต่ำกว่า 17 ปี
หลังจากจบการศึกษาระดับไฮสคูล นากาตะต้องตัดสินใจว่าจะเล่นฟุตบอลอาชีพหรือจะเรียนต่อ ในที่สุดก็เลือกเล่นฟุตบอลอาชีพ และเลือกที่จะเล่นให้เบลแมร์ ฮิรัตสุกะ ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี ช่วยให้ทีมคว้าอันดับสองในสเตจที่ 2 ของเจลีกเมื่อปีค.ศ. 1994 และยังช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เอเชี่ยน คัพวินเนอร์สคัพ ในฤดูกาลต่อมา โดยเป็นคนโขกประตูชัยให้กับทีมเอาชนะไปหวุดหวิด
ปี 1996 ฮิเดะ ได้รับเลือกติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดอายุต่ำกว่า 23 ปีไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่แอตแลนต้า
สหรัฐ และเป็นคนโหม่งประตูให้ญี่ปุ่นพลิกล็อกเอาชนะบราซิล ซึ่งแน่นอนว่าเกมนี้สร้างชื่อเสียงให้ขจรขจาย
หลังจากกลับมาเล่นให้เบลแมร์ นากาตะก็ยังโชว์ฟอร์มได้ดี แต่สโมสรมีปัญหาด้านการเงิน และหลังจากนากาตะเล่นได้ดีในฟร้องซ์98 ทางสโมสรเปรูจาซื้อตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ เล่นให้เปรูจาอยู่ 1 ปีครึ่งก็ย้ายไปโรม่า ก่อนจะไปอยู่กับปาร์ม่าจนถึงขณะนี้
ฮิเดะเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก เล่นฟุตบอลด้วยเท้าขวา เคยได้รับเลือกเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชีย เมื่อปี 1997 และ 1998 และหนังสือพิมพ์ไทม์ แม็กกาซีนยกย่องให้เป็นหนึ่งใน เอเชี่ยน ฮีโร่ เคียงข้างกับ อิชิโร่ ซูซูกิ นักเบสบอลที่ไปเล่นเบสบอลอาชีพอยู่ในสหรัฐ
นากาตะถือเป็นนักเตะญี่ปุ่นที่ดังที่สุดในยุโรป แม้ว่าจะมีนักเตะรุ่นใหม่ๆ มาประสบความสำเร็จมากกว่าในช่วงนี้ก็ตาม เนื่องจากนากาตะเป็นนักเตะที่นับได้ว่า เป็นชาวญี่ปุ่นคนแรก ที่ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตนักเตะในทวีปยุโรปนั่นเอง
ชีวิตนักเตะของฮิเดะเริ่มขึ้นหลังจากเรียนจบจากโรงเรียนนิอิราซากิ นากาตะเริ่มชีวิตนักเตะอาชีพกับทีมเบลมาเร่ ฮิรัตสึกะ และได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วจากโค้ชทีมชาติ หลังจากก้าวเข้าสู่การเป็นนักเตะทีมชาติญี่ปุ่น นากาตะเริ่มเป็นที่รู้จักในระดับโลกมากขึ้นหลังจบการแข่งเวิร์ลคัพที่ฝรั่งเศสในปี 1998 ทางสโมสรไม่สามารถจ่ายค่าเหนื่อยให้กับเขาได้ แทนที่จะเลือกอยู่กับสโมสรอื่นในเจ-ลีก นากาตะตัดสินใจเสี่ยงไปค้าแข้งกับต่างประเทศ โดยเลือกไปอยู่กับเปรูจา สโมสรในลีกเซเรีย อา ของอิตาลี
ในสารที่เผยแพร่ให้กับแฟนบอลทั่วโลกผ่านโฮมเพจของทีมชาติญี่ปุ่น นากาตะเขียนไว้ว่าในยามว่างเขาชอบใช้ชีวิตเงียบๆด้วยการอ่านหนังสือหรือไม่ก็เล่นโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ ซึ่งเขาพกมาฝรั่งเศสในศึกฟรองซ์98 ด้วย ส่วนนักเตะที่เป็นขวัญใจของเขาคือโรแบร์โต้ บักโจ้ ของทีมชาติอิตาลี
จุดเด่นของนากาตะ คือการเลี้ยงลูกบอล เนื่องจากนากาตะมีเทคนิคการเลี้ยงและการบังบอลที่ดีมาก ยากที่ใครจะแย่งไปได้ง่ายๆ และต่อจากนั้น นากาตะก็จะสร้างโอกาสให้ทีมด้วยการผ่านลูกสวยๆ ให้กับเพื่อนร่วมทีมเพื่อทำประตู หรืออาจตัดสินใจยิงเองในบางครั้ง เนื่องจากนากาตะเป็นนักเตะที่สามารถยิงไกลได้ดี และการมีจินตนาการเยี่ยม บวกกับความเข้าใจเกมเป็นอย่างดี ทำให้นากาตะเป็นนักเตะกองกลางที่ยอดเยี่ยมในทุกจังหวะ
ข้อมูลนักเตะจาก
มติชน
siamsport