
Miyuki Nakajima เกิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1952 (2495) ขณะนี้ (ปี 2007) อายุ 55 ปี Miyuki Nakajima เป็น นักร้องที่มากความสามารถของประเทศญี่ปุ่น หากใครที่บอกว่าชอบเพลงญี่ปุ่นแต่ว่าไม่เคยฟังเพลงของเธอก็เห็นท่าจะแปลก เพราะนอกจากเธอจะร้องเพลงที่ตัวเองแต่งขึ้นมาแล้ว ก็ยังแต่งเพลงทั้งเขียนเนื้อร้อง และทำดนตรี ให้นักร้องดัง ๆ อีกหลายคน ซึ่งเพลงที่คุณชอบอาจจะเป็นเพลงที่เธอแต่งก็ได้!!
Miyuki Nakajima เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในวงการนักร้องนักดนตรี ด้วยเสียงร้องของเธอที่เป็นเอกลักษณ์ และสามารถปรับเปลี่ยนเสียงร้องให้ไปตามอารมณ์ของเพลงได้อย่างดี เพลงของเธอมีท่วงทำนองที่แปลกไม่เหมือนเพลง JPOP ทั่วไป ส่วนด้วยเนื้อเพลงที่เธอเขียนขึ้นจะมีกลิ่นอายของความเป็นบทกวี โดยมากจะเกี่ยวกับความรักแต่ จะไม่ใช่รักแบบอกหัก คร่ำครวญ แบบตรง ๆ แต่เธอกลับใช้ภาษาได้อย่างสวยงาม ซึ่งกว่าจะเข้าใจความหมายที่เธอต้องการสื่อในเพลงก็ต้องตีความกันพอสมควร จะว่าไปเมื่อฟังเพลงของเธอก็อาจจะทำให้รู้สึกเหมือนดูหนังสักเรื่องเลยทีเดียว สไตล์ของเธอเขาจัดอยู่ในแบบ Folk Rock, Blues Rock ผสมกับ Ballad แบบฝรั่งเศส เสียงของเธอน่าฟัง นุ่ม ลึก มีเอกลักษณ์ชัดเจน
เพลงของ Miyuki Nakajima มักจะขึ้นสู่ Top10 ใน Oricon เสมอ ๆ เรียกได้ว่าเธอประสบความสำเร็จอย่างสูงตั้งแต่ปี 1979 กระทั่งถึง ปี 1985 เธอส่ง albums ขึ้นสู่อันดับ 1 ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับเพลงตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา ก็มีหลายเพลงเป็นอันดับ 1 ไม่ว่าจะเป็นเพลง
Wakareuta
ปี 1970,
Akujo
ปี '80, "Sora to Kimi no Aida ni " ในปี '90 และ
Chijo no Hoshi
ปี 2000 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลง
Chijo no Hoshi
ก็อยู่ในชาร์ตยาวนานกว่า 200 สัปดาห์ เลยทีเดียว
นอกจากจะส่งให้เพลงที่เธอแต่งและร้องเองดังทะลุเกาะญี่ปุ่นแล้ว เธอยังได้แต่งเพลงมากกว่า 90 เพลง ให้กับนักร้องคนอื่น ๆ มากมายหลายต่อหลายคน และเพลงที่เธอแต่งก็ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมทั้งสิ้น และมีหลายเพลงที่ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Oricon ไม่ว่าจะเป็นเพลง "Abayo" แต่งให้กับ Naoko Ken, "Kosa ni Fukarete" แต่งให้กับ Shizuka Kudo, และ
Sorafune
แต่งให้กับ Tokio เป็นต้น
Miyuki Nakajima นอกจากจะโด่งดังคับเกาะญี่ปุ่นแล้ว เธอยังเป็นที่รู้จักในฐานะนักแต่งเพลงในต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าเพลงของเธอนั้นมีนักร้องในเอเชียโดยเฉพาะไต้หวัน และฮ่องกงนำทำนองเพลงของเธอไปใส่เนื้อร้องในภาษาจีนมากที่สุด เช่นเพลง "Rouge" เพลงนี้ Nakajima ได้แต่งให้กับ Naomi Chiaki ราว ๆ กลางยุค 1970 และได้นำไป cover โดย Faye Wong เมื่อปี 1992 และเปลี่ยนเป็นชื่อเพลง "Fragile Woman" หลังจากนั้นเธอก็เป็นที่ยอมรับในแถบเอเชีย ส่วนศิลปินทางแถบตะวันตกก็เคยร่วมงานกับเธอ เช่น Stevie Wonder เป็นต้น
Biography
Miyuki Nakajima เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยใน Sapporo, Hokkaido พ่อของเธอคือ Shinichiro Nakajima ซึ่งเป็น แพทย์ผู้ชำนาญโรคสตรี และคุณปู่ของเธอ Buichi Nakajima ก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงในวงการการเมืองท้องถิ่นใน Obihiro, Hokkaido พอถึงปี 1957 Nakajima และครอบครัวของเธอก็ย้ายไปอยู่ที่ Iwanai และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจนถึงปี 1964
Music career
ยุค 1970
14 พฤศจิกายน 1975 Nakajima ได้โชว์เพลงแรกของเธอคือ "
Jidai
" ในเทศกาล Yamaha World Popular Song Festival ครั้งที่ 6 (ภาพซ้าย)
ปี 1975 ในเดือนพฤษภาคม เธอได้ออกเพลง "Wings of Love (I Knew Nothing)" ก็ได้รับรางวัล "Popular Song Contest" ซึ่งส่งเข้าประกวดโดยสปอนเซอร์ของเธอคือ "Yamaha Music Foundation" และในฤดูใบไม้ร่วงในปีนี้เองที่ Nakajima ชนะรางวัล grand-prix จาก Yamaha Nakajima ได้เซ็นสัญญากับบริษัทเพลง Canyon Records และได้ออกซิงเกิ้ลแรกของเธอในชื่อว่า "Azami jo no Lullaby" เมื่อวันที่ 25 กันยายน 1975
ปี 1976 ในเดือนพฤษภาคม Nakajima ได้ออก album แรกในชื่อว่า Watashi no Koe ga Kikoemasuka (ภาพซ้าย) และนับตั้งแต่อัลบั้มแรกจนกระทั่งปัจจุบันเธอได้อยู่ในวงการเพลงของญี่ปุ่นมากว่า 30 ปี และยังมีอัลบั้มใหม่ ๆ ออกมาตลอดไม่เคยขาด และยังได้รับความนิยมในทุกอัลบั้มอีกด้วย ลองนึกดูว่าจะมีนักร้องสักกี่คนที่ยังยืนหยัดอยู่ในวงการนี้ได้ยาวนานเช่นเธอ
ปี 1977 Nakajima ได้ออกซิงเกิ้ลที่ 5 ในชื่อ
Wakareuta
และก็ได้ไต่ขึ้นอันดับใน Oricon single chart แต่ในเวลานั้นในชาร์ต Top10 ของ Oricon ก็ถูกครองอันดับโดยเพลงจากวง Pink Lady (ภาพขวา) ซึ่งเป็นนักร้องสองสาวชาวญี่ปุ่น คือ Mitsuyo Nemoto ("Mie") และ Keiko Masuda ("Kei") มากว่า 6 เดือน แต่อย่างไรก็ตามยอดขายซิงเกิ้ล "Nagisa no Sinbad" ก็ยังทำอันดับได้สูงอยู่มากและนั่นก็ทำให้ Nakajima ได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และเพลง "Nagisa no Sinbad" ก็ได้ถูกรวมอยู่ในอัลบั้ม Aishiteiru to Ittekure ในปี 1978 และอัลบั้มนี้ก็สามารถทำอันดับได้ถึงอันดับ #2 ใน Oricon chart
เพลงหนึ่งที่ทำให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดังมาก คือเพลง "Sejou" ซึ่งเป็นเพลงในอัลบั้ม Aishiteiru to Ittekure ในปี 1981 ได้ใช้เป็นพลงประกอบละครเรื่องดังทางช่อง TBS เรื่อง San nen B-gumi Kinpachi-Sensei สร้างจากการ์ตูน ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคุณครูประจำชั้นห้อง 3B และนักเรียนขาโจ๋ ซึ่งในปัจจุบันละครเรื่องนี้ได้ถูกทำขึ้นหลายภาคด้วยกัน (ภาคล่าสุดออกอากาศเมื่อปี 2001) ถึงแม้ว่าเพลงนี้ไม่ได้ทำออกมาเป็นซิงเกิ้ล อย่างไรก็ตามก็ได้ทำให้อัลบั้ม Aishiteiru to Ittekure (อัลบั้มปี 1978) ทั้งที่ผ่านมาแล้ว 3 ปี กลับไปสู่ชาร์ตอีกครั้งหลังจากละครเรื่อง Kinpachi Sensei ได้ออกอากาศไป
ยุค 1980
ในช่วงต้นของยุค 1980 Miyuki Nakajima ก็ได้รับความนิยมในฐานะนักร้องและนักแต่งเพลงตั้งแต่เดือนเมษา ปี 1979 ถึง มีนาคม 1987 ในช่วงนั้นเธอได้ทำงานเป็นดีเจให้กับ Nippon Broadcasting System ในรายการวิทยุรายการ All Night Nippon ซึ่งเป็นรายการวิทยุที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในญี่ปุ่น ซึ่งเธอก็มีมุขตลกที่มักจะนำมาพูดออกอากาศเสมอและเป็นที่ถูกใจวัยรุ่นสมัยนั้น
"Akujo" ซิงเกิ้ลที่ 8 ของ Nakajima ออกขายเมื่อปี 1981 ขายได้ถึง 800,000 แผ่น และได้ขึ้นสู่อันดับ 1 ใน oricon chart. และในปี 1982 เธอก็ส่งอัลบั้ม Kansuigyo (ภาพซ้าย)ซึ่งได้ทำยอดขายเป็น top selling album chart ในญี่ปุ่นในปีนั้น
ในทางตรงกันข้าง งานของเธอได้รับความนิยมลดลงอย่างมากในช่วงกลางของยุค 1980 ในช่วงนี้เองที่เธอพยายามค้นหาความเป็นตัวตนของเธอ และค้นหาเพลงที่เป็นสไตล์ของเธอเอง มีนักร้องและคนมีชื่อเสียงหลายคนมีชื่ออยู่ในอัลบั้มของเธอ อย่างเช่น Bob Clearmountain และ Steve Boyer ได้ร่วมมิกซ์เพลงให้กับเธอซึ่งควบคุมโดย Ted Jensen จนกระทั่งซิงเกิ้ลที่เป็นตัวตนของเธอก็ออกมในปี 1985 โดยใช้ชื่อว่า "Tsumetai Wakare" และ "Atai no Natsuyasumi" ร่วมกับนักดนตรีชื่อดังชาวตะวันตก Stevie Wonder
ในยุคนี้เองที่ Nakajima ได้ร่วมทำงานเพลง และไปร่วมแจมในงานคอนเสิร์ตต่าง ๆ กับนักร้องดัง ๆ หลายคนไม่ว่าจะเป็น Tsugutoshi Goto และ Kazuo Shiina เธอก็ได้ร่วมเป็น producer, arranger, composer และเล่นเบสให้ด้วย Goto และ Nakajima ได้ร่วมกันแต่งเพลงตั้งแต่ปลายปี 1980 จนถึงต้นปี 1990 พวกเขาได้เขียนเพลงมากมายหลายเพลงให้กับ Shizuka Kudo นักร้องสาว Idon ในสมัยนั้น พอถึงอัลบั้ม 36.5 'C Nakajima Miyuki ได้ทำงานร่วมกับ Yoshihiro Kai ซึ่งเป็นหัวหน้าวง Kai Band เขาได้มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับอัลบั้มนี้
พอถึงปี 1988 Nakajima ได้ออกอัลบั้มที่ 16 ในชื่อว่า Goodbye Girl (ภาพซ้าย) ในอัลบั้มนี้เองที่ได้ Ichizo Seo มาเป็นโปรดิวเซอร์และควบคุมดนตรีให้ทั้งหมด Ichizo Seo มีชื่อเสียงมาในการเป็นโปรดิวซ์เซอร์ให้กับนักร้องหลาย ๆ คน อาทิเช่น Tsuyoshi Nagabuchi, Takuro Yoshida, Chage and Askahad , Mariya Takeuchi และ Rita Coolidge ส่วน Nakajima ได้ทำงานร่วมกับ Ichizo Seo อย่างเข้ากันได้ดีมากจนกระทั่งปลายปี 1980
Ichizo Seo ได้โปรดิวซ์ให้กับผลงานชิ้นเอกของ Nakajima มากมาย ตั้งแต่ปี 1980-90 โดยเฉพาะอัลบั้ม East Asia (ภาพขวา)และยังได้ร่วมมือกับนักแต่งเพลงอีกหลายคน เช่น Koshi Inaba นักร้องนำและนักแต่งเพลงจากวง B'z ก็ได้เลือกให้มาช่วยแจมในอัลบั้มนี้ "Asai Nemuri" ได้ออกขายเป็นซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้ม East Asiaและนับเป็นซิงเกิ้ลแรกที่ทำยอดขายได้ทะลุล้านแผ่นในชีวิตการทำงานของ Nakajima
ปี 1990 วงการเพลงญี่ปุ่นก้าวสู่ยุคใหม่
อัลบั้มในยุคใหม่ของ Nakajima ได้บันทึกเสียงที่ American studio หลังจากปี 1996 อัลบั้ม Paradise Cafe เธอได้บันทึกเสียงกับ Vinnie Colaiuta, Neil Stubenhaus, Gregg Bissonette, Russ Kunkel, Dean Parks, Michael Thompson และ Leland Sklar
นับตั้งแต่ Nakajima ได้เดบิวซิงเกิ้ลแรกเมื่อปี 1975 Nakajima ก็ยังอยู่กับต้นสังกัด Pony Canyon Records แต่กระนั้นในปี 2000 เธอก็เปลี่ยนต้นสังกัด และไปอยู่กับต้นสังกัดเดิมที่ทำให้เธอเกิดในวงการคือ "Yamaha Music Communications" ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ปี 1999 เธอก็ได้ออกอัลบั้มสุดท้ายกับค่าย Pony Canyon
ในชื่อว่า Hi: Wings และ Tsuki: Wings แต่ว่าเธอทำยอดขายได้เพียง 40,000 แผ่นเท่านั้น และทั้งสองอัลบั้มนี้ก็กลายเป็นอัลบั้มตำนานของเธอที่ทำยอดขายได้ต่ำที่สุด
ที่ต้นสังกัดใหม่ Yamaha Music Communications เธอได้ออกอัลบั้มอีก 6 อัลบั้มและ 3 ซิงเกิ้ล และอัลบั้มล่าสุดก็คืออัลบั้ล Lullaby Singer วางขายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2006 และซิงเกิ้ลล่าสุดในปี 2007 คือซิงเกิ้ล
Ichigo Ichie
(ภาพซ้าย) ก็ขึ้นสู่อันดับใน Oricon เช่นกัน
Production work
ตั้งแต่เธอเดบิวในปี 1975 Nakajima เธอก็ได้แต่งเพลงให้กับนักร้องคนอื่น ๆ หลายต่อหลายคน ช่วงแรกเธอได้เขียนเพลงให้กับ Naoko Ken มากมายหลายเพลง เริ่มตั้งแต่ปี 1976 ซิงเกิ้ล "La-La-La"/"Ame ga Sora o Suteru Hi wa"
ในยุค 1970 และ 1980 Nakajima แต่งเพลงให้กับ Junko Sakurada, Yoshie Kashiwabara, Kiyoshi Maekawa, และ Tokiko Kato, Keiko Masuda นักร้องนำวง Pink Lady ในซิงเกิ้ล "Suzume" วางขายในปี 1981และขายได้กว่า 300,000 แผ่น ก็เป็นผลงานของเธอทั้งสิ้น
จากช่วงกลางของยุค 1980 จนถึงช่วงต้นของยุค 90 Nakajima ประสบความสำเร็จในการแต่งเพลงให้กับนักร้องคนอื่น ๆ เช่นกัน เธอแต่งเนื้อร้องให้กับ Hiromi Go, Yoko Nagayama, Ryoko Moriyama, Ken Takakura และ Nae Yuki และยังได้ทำเพลงให้กับนักร้องดัง ๆ หลาย ๆ คน เช่น Ryuichi Sakamoto, Masashi Sada และ Kyohei Tsutsumi โดยเฉพาะเมื่อร่วมงานกับนักแต่งเพลงอย่าง Tsugutoshi Goto ก็ค่อนข้างจะประสบผลสำเร็จ ซึ่งทั้ง Nakajima และ Tsugutoshi ได้ร่วมกับแต่งเพลงกว่า 20 เพลงให้กับ Idon สาวอย่าง Shizuka Kudo (ภาพขวา) จนส่งให้ 5 ซิงเกิ้ลของ Shizuka ที่พวกเขาแต่งเพลงให้ขึ้นสู่อันดับ 1 ใน oricon chart ในปี 1993 ซิงเกิ้ล "Dokoku" ของ Shizuka ก็ทำยอดขายได้กว่า 900,000 แผ่นและส่งผลให้ Shizuka Kudo กลายเป็นนักร้องชั้นแนวหน้าในยุคนั้นไปเลย ใครที่เป็นแฟนเพลงของ Shizuka Kudo
คงจะเป็นแฟนเพลงของ Nakajima Miyuki ไปโดยปริยาย และหลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากทำให้ Nakajima Miyuki แต่งเพลงให้กับ Shizuka Kudo เป็นประจำ
และล่าสุดปี 2006 Nakajima ก็ได้แต่งเพลงให้กับวงร็อคชื่อดังขวัญใจคนรุ่นใหม่อย่าง TOKIO ในชื่อเพลงว่า
Sorafune
และเดือนสิงหาคม ปี 2007 ก็ได้แต่งเพลง
Honjitsu, Mijukumono
(ภาพซ้าย) ให้กับ TOKIO อีกครั้งและก็ได้รับความนิยมตามคาด
ผลงานเพลงที่แต่งโดย Nakajima Miyuki ที่น่าจดจำ
ปี 1976 "Abayo" ศิลปิน Naoko Ken อยู่ในอันดับ 1 Oricon
ปี
1977 "Shiawase Shibai" ศิลปิน Junko Sakurada อยู่ในอันดับ 3 Oricon
ปี
1978 "Kamome wa Kamome" ศิลปิน Naoko Ken อยู่ในอันดับ 7 Oricon
ปี
1978 "Kono Sora o Tobetara" ศิลปิน Tokiko Kato อยู่ในอันดับ 14 Oricon
ปี
1988 "Fu-Ji-Tsu" ร่วมแต่งโดย Tsugutoshi Goto ศิลปิน Shizuka Kudo อยู่ในอันดับ 1 Oricon
ปี
1988 "Mugo,n...Iroppoi" ร่วมแต่งโดย Tsugutoshi Goto ศิลปิน Shizuka Kudo อยู่ในอันดับ 1 Oricon
ปี
1989 "Kosa ni Fukarete" ร่วมแต่งโดย Tsugutoshi Goto ศิลปิน Shizuka Kudo อยู่ในอันดับ 1 Oricon
ปี
1990 "Watashi ni Tsuite" ร่วมแต่งโดย Tsugutoshi Goto ศิลปิน Shizuka Kudo อยู่ในอันดับ 1 Oricon
ปี
1993 "Dokoku" ร่วมแต่งโดย Tsugutoshi Goto ศิลปิน Shizuka Kudo อยู่ในอันดับ 1 Oricon
ปี
2006 "
Sorafune
" ศิลปิน Tokio อยู่ในอันดับ 1 Oricon
ปี
2007 "
Honjitsu, Mijukumono
" ศิลปิน Tokio อยู่ในอันดับ 1 Oricon